ตลาดรถมือสองครึ่งปีแรก 2568: ยอดขายหดตัว 10% พร้อมรับมือการเปลี่ยนผ่านสู่ยุค EV!
สมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้วได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลที่ทำให้เราต้องจับตาดูตลาดรถมือสองกันแบบไม่กะพริบตา! ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 (มกราคม – มิถุนายน) ตลาดรถยนต์ใช้แล้วมียอดขายรวมอยู่ที่ 285,000 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าไปถึง 10% เลยทีเดียว!
ภาพรวมสถานการณ์ที่กำลังเปลี่ยนไป
นายวิสุทธิ์ เหมพรรณไพเราะ นายกสมาคมฯ ได้ชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโครงสร้างอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการเข้ามาของ รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่กำลังสร้างแรงกระเพื่อมอย่างมหาศาล!
ลองมาดูตัวเลขที่น่าตกใจกันสักหน่อย:
- จำนวนรถมือสองเข้าสู่ตลาด:
- ปี 2567: เฉลี่ยเดือนละ 25,000 คัน หรือประมาณ 300,000 คันต่อปี
- ปี 2568: ลดฮวบลงเหลือเฉลี่ยเพียงเดือนละ 18,458 คัน หรือคิดเป็นการลดลงกว่า 28%!
- ยอดขายรถยนต์ใช้แล้ว:
- ปี 2566: ยอดขายรวม 406,000 คัน
- ปี 2567: ลดลงเหลือ 316,000 คัน หดตัวประมาณ 22%
- ครึ่งปีแรก 2568: ยอดขายรวม 285,000 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 10%
นอกจากนี้ การปล่อยสินเชื่อจากสถาบันการเงินสำหรับรถยนต์ใช้แล้วก็ได้รับผลกระทบอย่างจัง โดยลดลงจากปี 2566 ถึง 2567 กว่า 25% และยังคงลดลงต่อเนื่องอีกประมาณ 10% ในปี 2568 นี้!
ถึงเวลาแล้วที่ทุกภาคส่วนต้องจับมือกัน!
สถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นนี้สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างอย่างมีนัยสำคัญในอุตสาหกรรมรถยนต์ใช้แล้ว ทั้งจากสภาวะเศรษฐกิจ ราคาสินค้า และที่สำคัญคือพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ทั้งจำนวนรถที่เข้าสู่ตลาด ยอดขาย และการปล่อยสินเชื่อต่างหดตัวลงอย่างต่อเนื่อง
นายวิสุทธิ์ย้ำว่า การปรับตัวให้ทันต่อบริบทใหม่นี้เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง และต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็น ผู้ประกอบการ รัฐบาล และ สถาบันการเงิน เพื่อร่วมกันกำหนดทิศทางการพัฒนาอุตสาหกรรมให้สามารถฟื้นตัวและเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
และแน่นอนว่า การเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมยานยนต์สู่ยุครถไฟฟ้า (EV) ก็เป็นอีกหนึ่งแรงกระเพื่อมสำคัญที่ทุกคนต้องเตรียมรับมือ ไม่เพียงแต่ในด้านธุรกิจเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผลกระทบต่อแรงงานและซัพพลายเชนที่เกี่ยวข้องอีกด้วย
นี่คือโอกาสทองที่จะยกระดับมาตรฐาน สร้างความเชื่อมั่น และร่วมกันสร้างจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในอุตสาหกรรมรถยนต์ใช้แล้ว ให้กลับมาแข็งแกร่งและสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคในระยะยาวได้อีกครั้ง!