นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายส่งผลให้จำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสีแดงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สร้างรายได้เติบโต 12.28% เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่งสัญญาณเชิงบวกว่าภายในปี 2568 รัฐบาลอาจไม่ต้องชดเชยส่วนต่างค่าใช้จ่าย โดยมีแผนขยายมาตรการนี้ครอบคลุมทุกเส้นทางรถไฟฟ้าภายในเดือนกันยายนปีเดียวกัน
ยอดผู้โดยสารพุ่ง หนุนรายได้โตต่อเนื่อง
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า นโยบายค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสาย ซึ่งเริ่มใช้กับรถไฟฟ้าสายสีม่วง (เตาปูน-คลองบางไผ่) และสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต และบางซื่อ-ตลิ่งชัน) กว่า 1 ปี 2 เดือน ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากประชาชน โดยสถิติผู้โดยสารทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เปิดให้บริการ
ข้อมูลเดือนธันวาคม 2567 พบว่าปริมาณผู้โดยสารของสายสีแดงอยู่ที่ 1,027,458 คน เพิ่มขึ้น 24.88% ส่วนสายสีม่วงมี 2,026,981 คน เพิ่มขึ้น 4.89% รวมทั้งสองสายมีจำนวนผู้โดยสารรวม 3,054,439 คน เพิ่มขึ้น 10.86% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
รายได้ขยับขึ้น รัฐอาจไม่ต้องชดเชย
นอกจากจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น รายได้จากค่าโดยสารก็ขยับขึ้นตามไปด้วย โดยในเดือนธันวาคม 2567 รถไฟฟ้าสายสีแดงสร้างรายได้ 20.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.48% ขณะที่สายสีม่วงมีรายได้ 29.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.28% รวมรายได้ทั้งสองเส้นทางอยู่ที่ 49.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.28% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
แนวโน้มการเติบโตดังกล่าวส่งผลให้รัฐบาลมั่นใจว่า ภายในปี 2568 รายได้จากค่าโดยสารอาจสามารถครอบคลุมต้นทุนการให้บริการ ทำให้รัฐไม่จำเป็นต้องชดเชยส่วนต่างอีกต่อไป ซึ่งเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้เดิม
เตรียมขยายมาตรการครอบคลุมทุกเส้นทาง ก.ย. 68
รัฐบาลยืนยันว่า นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายจะถูกขยายไปยังทุกเส้นทางภายในเดือนกันยายน 2568 โดยอยู่ระหว่างการดำเนินการผ่านร่างพระราชบัญญัติการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม และการจัดตั้งกองทุนส่งเสริมระบบตั๋วร่วม ซึ่งคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ช่วงกลางปี 2568
นายสุริยะกล่าวว่า นอกจากช่วยลดภาระค่าครองชีพให้ประชาชนแล้ว นโยบายนี้ยังเป็นแรงจูงใจให้คนหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะมากขึ้น ลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว ซึ่งช่วยลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 และสร้างโอกาสในการเดินทางอย่างเท่าเทียม
หากแนวโน้มการเติบโตของผู้โดยสารและรายได้เป็นไปตามคาด นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทอาจกลายเป็นโมเดลสำคัญในการพัฒนาขนส่งสาธารณะของไทยในอนาคต