กำลังพัฒนาและดึงดูด
อิมแพ็ค เมืองทองธานีกำลังทำการก่อสร้าง Sky Entrance คอมพลีต 90% คาดเสร็จในก.พ. นอกจากนี้, การแนะนำแพ็กเกจ “IMPACT NEXT” กำลังดึงดูดผู้จัดงาน ไอเดียใหม่ๆ และลูกค้าใหม่ๆ
เปิดตัว “IMPACT NEXT”
อิมแพ็ค เมืองทองธานี พร้อมเปิดรถไฟฟ้าสายสีชมพูในพ.ค. 2568 ด้วยแพ็กเกจใหม่ “IMPACT NEXT” เพื่อดึงดูดผู้จัดงานและผู้มีไอเดียสร้างสรรค์, เพิ่มความมีชีวิตชีวาและการใช้บริการศูนย์ฯ
เปิดตัวแพ็กเกจใหม่
เตรียมเปิดแพ็กเกจ “IMPACT NEXT” ในเดือนพ.ค. 2568 ซึ่งจะได้รับประโยชน์จากการเปิดรถไฟฟ้าสายสีชมพู, นอกจากนี้ยังเน้นการดึงดูดผู้จัดงานใหม่ๆ ที่มีไอเดียสร้างสรรค์
เติบโตคาดกำไร
กำไรรวมปี 2567 ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 25% สนับสนุนอุตสาหกรรมไมซ์ไทย, โดยการขยายเส้นทางรถไฟฟ้าสีชมพูและ Sky Entrance จะเพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้ใช้บริการ.
ดึงดูดและขยาย
แพ็กเกจ “IMPACT NEXT” ช่วยดึงดูดผู้จัดงานใหม่ๆ พร้อมกับขยายประเภทกิจกรรมเช่น งานแสดงสินค้า, สัมมนา, และจับคู่ธุรกิจการค้า, เพื่อเพิ่มความหลากหลายและจำนวนลูกค้า.
ดึงดูดผู้จัดงานใหม่
แพ็กเกจ “IMPACT NEXT” กำลังเน้นเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ เช่น เรียกสร้างผู้ประกอบการและนักสร้างสรรค์, แม้ไม่เคยจัดงานมาก่อน, พร้อมเปิดเสนอสิทธิ์ฟรีหกข้อ.
เสนอโอกาสใหม่
แพ็กเกจ “IMPACT NEXT” มีสิทธิประโยชน์ถึงหกข้อ เช่น คำปรึกษาด้านการวางแผนจัดงาน, การโฆษณาผ่านศูนย์ที่กรุงเทพฯ, ส่วนลดพิเศษในการเช่าพื้นที่จัดงาน, จอ LED ขนาดใหญ่, เวทีแสดง และบริการอาหาร.
IMPACT เมืองทองธานี พลิกโฉมไมซ์ไทยด้วยแพ็กเกจ “IMPACT NEXT” พร้อมรับความคึกคักจากรถไฟฟ้าสายสีชมพู พ.ค. 2568
ศูนย์จัดแสดงสินค้าและการประชุม “IMPACT เมืองทองธานี” กำลังนับถอยหลังสู่การเปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมไมซ์ในช่วงเปิดตัวส่วนต่อขยายของรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่กำหนดเปิดให้บริการในเดือนพฤษภาคม 2568 โดยมาพร้อมกับการเปิดตัวแพ็กเกจ “IMPACT NEXT” ที่มุ่งหวังดึงดูดผู้จัดงานหน้าใหม่และผู้มีไอเดียสร้างสรรค์ เพื่อเพิ่มสีสันและกระตุ้นยอดการใช้งานของศูนย์ฯ
ฟันธงแนวโน้มเติบโตของอุตสาหกรรมไมซ์
นายพอลล์ กาญจนพาสน์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ซึ่งดูแลศูนย์ IMPACT เมืองทองธานี กล่าวว่า “ตั้งแต่ปลายปี 2567 จนถึงต้นปีนี้ เราได้เห็นการเพิ่มขึ้นของจำนวนงานจัดกิจกรรมในทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นงานแสดงสินค้า คอนเสิร์ต หรือประชุมสัมมนา ทั้งยังมีการจองงานจากต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง”
นายพอลล์คาดว่าภาพรวมรายได้ของศูนย์ในรอบปีงบประมาณ 2567 (เมษายน 2567-มีนาคม 2568) จะเติบโตได้ถึง 25% ซึ่งจะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมไมซ์ไทยและช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจในวงกว้าง
รถไฟฟ้าสายสีชมพู ดันทราฟิกเพิ่มแรง
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่หนุนการเติบโตของศูนย์ฯ ในปีนี้คือการเปิดให้บริการส่วนต่อขยายของรถไฟฟ้าสายสีชมพู คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการในเดือนพฤษภาคม 2568 โดยทางศูนย์ฯ กำลังเร่งดำเนินการติดตั้ง “Sky Entrance” ที่เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้า MT-01 (สถานี IMPACT เมืองทองธานี) บริเวณอาคารชาเลนเจอร์ 1 ซึ่งงานก่อสร้างในส่วนนี้คืบหน้าไปแล้วถึง 90% และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ เมื่อแล้วเสร็จจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการและเพิ่มทราฟิกเข้าสู่ศูนย์อย่างมีนัยสำคัญ
เปิดตัวแพ็กเกจ “IMPACT NEXT” สร้างมิติใหม่ให้กับงานอีเวนต์
เพื่อรองรับความคึกคักที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการเพิ่มทราฟิก ทางศูนย์ฯ ได้เปิดตัวแพ็กเกจ “IMPACT NEXT” โดยแพ็กเกจนี้ออกแบบมาเพื่อเปิดกว้างให้กับผู้จัดงานหน้าใหม่หรือผู้ที่มีไอเดียสร้างสรรค์ในการจัดกิจกรรมในรูปแบบงานแสดงสินค้า ประชุมสัมมนา หรือจับคู่ธุรกิจการค้า แพ็กเกจนี้จะให้สิทธิพิเศษครบถ้วนถึง 6 รายการ มูลค่ารวมกว่า 10 ล้านบาท โดยโปรโมชั่นนี้จะเริ่มตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568
สิทธิพิเศษ 6 ต่อในแพ็กเกจ “IMPACT NEXT” ได้แก่:
- ทีมที่ปรึกษายุทธศาสตร์: ให้คำแนะนำด้านการวางแผนงาน ตั้งแต่การจัดการงบประมาณจนถึงการสื่อสารประชาสัมพันธ์ตลอดกระบวนการจัดงาน
- สื่อประชาสัมพันธ์งาน: เผยแพร่ข่าวสารและโปรโมทงานภายในศูนย์ฯ รวมถึงพื้นที่โฆษณาย่านธุรกิจกลางกรุงเทพฯ
- ส่วนลดค่าเช่าพื้นที่: เสนอราคาพิเศษในการเช่าพื้นที่จัดงาน
- จอ LED ขนาดใหญ่: เพิ่มความโดดเด่นและความน่าสนใจให้กับงานอีเวนต์
- เวทีการจัดแสดงงาน: จัดเตรียมเวทีที่พร้อมตอบโจทย์ทุกรูปแบบการแสดงสินค้าและบริการ
- บริการอาหารและเครื่องดื่ม: มอบประสบการณ์ครบวงจรให้กับผู้เข้าร่วมงาน
นางอัจฉราวรรณ ศุภางคะรัตน์
ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า “แพ็กเกจ IMPACT NEXT ถูกออกแบบมาเพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ทั้งผู้ประกอบการรุ่นใหม่และผู้ที่มีไอเดียสร้างสรรค์แต่ยังขาดประสบการณ์ในการจัดอีเวนต์ เราเชื่อว่าการมอบสิทธิพิเศษและการสนับสนุนเชิงยุทธศาสตร์นี้จะช่วยให้ผู้จัดงานสามารถนำเสนอประสบการณ์ที่มีคุณค่าและแตกต่างได้อย่างชัดเจน”
ปรับกลยุทธ์สู่ยุคหลังโควิด
ในขณะที่อุตสาหกรรมไมซ์ฟื้นตัวหลังผลกระทบจากโควิด-19 ยอดนักเดินทางไมซ์นานาชาติและแนวโน้มการจัดงานในประเทศกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง กลุ่มงานที่เน้นเจาะกลุ่ม B2B เช่น งานแสดงสินค้าและการเจรจาธุรกิจ ยังคงเดินหน้าต่อไปอย่างคึกคัก
อย่างไรก็ตาม กลุ่มงานที่มุ่งเน้นผู้บริโภคโดยตรง (B2C) ยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงในความสนใจและพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในยุคที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
“ผู้จัดงานจำเป็นต้องปรับกลยุทธ์ให้หลากหลาย ทั้งในเรื่องของการให้ความรู้และแบ่งปันประสบการณ์ควบคู่ไปกับการนำเสนอสินค้าและบริการ เพื่อสร้างคุณค่าเพิ่มเติมให้กับผู้เข้าร่วมงาน” นายพอลล์กล่าวเสริม
สู่อนาคตแห่งนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์
ด้วยความร่วมมือระหว่างศูนย์ IMPACT เมืองทองธานีและการเปิดตัวรถไฟฟ้าสายสีชมพูในส่วนต่อขยาย คาดว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่ไม่เพียงแต่เพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางเท่านั้น แต่ยังเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ช่วยเสริมศักยภาพให้กับวงการไมซ์ไทย
แพ็กเกจ “IMPACT NEXT” จึงเป็นก้าวสำคัญในการเปิดประสบการณ์ใหม่และสร้างโอกาสทางธุรกิจสำหรับผู้จัดงานทุกกลุ่ม พร้อมมอบความรู้และประสบการณ์ที่มากกว่าการจับจ่ายซื้อสินค้าให้กับผู้เข้าร่วมงานในยุคที่ทุกอย่างเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
ด้วยแนวทางนี้ “IMPACT เมืองทองธานี” มั่นใจว่าจะสามารถดึงดูดทราฟิกและสร้างสีสันให้กับอุตสาหกรรมไมซ์ไทยในอนาคตอันใกล้นี้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน