สงครามราคา EV ระอุ! จีนเข้มงวดควบคุม แรงกระเพื่อมถึงไทย ผู้บริโภคได้รถถูก แต่มาพร้อมความเสี่ยงบริการหลังการขาย!
โลกกำลังหมุนเร็วไปสู่ยุคของ รถยนต์ไฟฟ้า (EV) และสมรภูมิการแข่งขันก็ดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะจากยักษ์ใหญ่อย่าง จีน ที่ผงาดขึ้นเป็น “อภิมหาอุตสาหกรรม EV” ที่ผลิตและขยายตลาดแบบก้าวกระโดด! แต่แล้วในปี 2568 นี้เอง สงครามราคาที่เคยปะทุในจีนก็ข้ามพรมแดนมาถึงประเทศไทยอย่างจัง! มันคือการสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ที่ส่งผลทั้งด้านบวกและลบ!
จีนเอาจริง! คุมเข้มสงครามราคา EV หลังแบรนด์เล็กเริ่มไม่ไหว!
ในประเทศจีน ผู้ผลิต EV หลายรายกำลังเผชิญกับแรงกดดันมหาศาลจากการ ตัดราคากันอย่างหนักหน่วง เพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดภายใต้บรรยากาศที่หลายคนมองว่า “ไร้เหตุผล” จนทำให้แบรนด์ขนาดกลางและเล็กหลายแห่งต้องแบกรับภาระขาดทุนมหาศาล และกระทบกระเทือนไปถึงซัพพลายเชนทั้งระบบเลยทีเดียว!
สถานการณ์เริ่มบานปลายจนรัฐบาลจีนเองก็ไม่อาจนิ่งเฉยได้อีกต่อไป! ท่านนายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง ได้ออกมาแถลงจุดยืนอย่างชัดเจน โดยเรียกร้องให้มีการ กำกับดูแลการแข่งขันด้านราคาให้มากขึ้น และย้ำว่าการเติบโตของอุตสาหกรรม EV ควรอิงกับ นวัตกรรมและคุณภาพ ไม่ใช่แค่การลดราคาแบบไม่ลืมหูลืมตา!
แม้แต่ China Association of Automobile Manufacturers องค์กรอุตสาหกรรมยานยนต์ยังออกมาเตือนถึงการแข่งขันที่ “ไร้ระเบียบ” และ “เสี่ยงต่อการเสียสมดุลทั้งระบบ” โดยมีการคาดการณ์กันว่า ถ้าปล่อยให้สถานการณ์เป็นแบบนี้ต่อไป ราคาตลาดอาจถูกบิดเบือนอย่างรุนแรงจนอาจเกิดฟองสบู่ในอุตสาหกรรม EV ของจีนได้เลยนะเนี่ย!
แรงสะเทือนจากแดนมังกรถึงไทย: ถูกลงก็จริง...แต่ก็ต้องลุ้นกันหน่อย!
แรงสั่นสะเทือนจากแดนมังกรเริ่มส่งผลถึงประเทศไทยอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในตลาด EV ของไทยที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แบรนด์จากจีนกลายเป็นผู้เล่นหลักที่ครองส่วนแบ่งตลาดไทยแทบทั้งหมด และการแข่งขันตัดราคาที่ไม่ลดราวาศอกก็ยังคงดำเนินต่อไป! ล่าสุด BYD แบรนด์ยักษ์ใหญ่จากจีนเองก็ได้ปรับลดราคาจำหน่าย EV ในไทยลงถึง 20-34% เลยทีเดียว! เพื่อเร่งยอดขายและกดดันคู่แข่งรายอื่นในตลาด!
แน่นอนว่าสำหรับผู้บริโภคไทย นี่คือข่าวดีในแง่ของ ราคาที่ถูกลง อย่างเหลือเชื่อ! แต่เดี๋ยวก่อน! ความถูกนั้นอาจมาพร้อมกับความเสี่ยงที่คุณอาจยังมองไม่เห็น ทั้งในเรื่องของ คุณภาพ, ความมั่นคงของแบรนด์, และที่สำคัญที่สุดคือบริการหลังการขาย! ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญมากๆ ในการครอบครองรถยนต์ไฟฟ้าในระยะยาวนะ! สงครามราคาที่ดูเหมือนจะเป็นโอกาสทองสำหรับผู้บริโภคในวันนี้ อาจกลายเป็นต้นเหตุของปัญหาที่ยากจะแก้ไขในวันหน้าก็ได้ใครจะรู้!
อนาคต EV ไทย: แค่รถถูกพอไหม?
ในอีกด้านหนึ่ง ประเทศไทยเองก็มีเป้าหมายที่ชัดเจนในการเป็น ศูนย์กลางการผลิต EV ของอาเซียน การแย่งชิงตลาดระหว่างแบรนด์ต่างชาติในตอนนี้จึงอาจส่งผลกระทบต่อเป้าหมายของเรา โดยเฉพาะในด้านการส่งเสริมผู้ผลิตท้องถิ่นและสร้างอุตสาหกรรมที่ยั่งยืนในระยะยาว หากการตัดราคาแบบไม่มีที่สิ้นสุดยังดำเนินต่อไปโดยไม่มีมาตรการรองรับที่ชัดเจน!
ในขณะที่รัฐบาลจีนเริ่มควบคุมและทบทวนนโยบายสนับสนุน EV อย่างเข้มข้น ประเทศไทยเองก็ควรเริ่มประเมินสถานการณ์อย่างรอบด้าน เพื่อวางยุทธศาสตร์ที่ไม่ใช่แค่การรับรถราคาถูกจากต่างชาติ แต่ต้องมองให้ไกลถึง ความยั่งยืนของทั้งอุตสาหกรรม และที่สำคัญที่สุดคือ ผลประโยชน์ของผู้บริโภคในประเทศ เป็นหลัก! นี่คือความท้าทายที่น่าตื่นเต้นและเราต้องจับตาดูกันต่อไป!
คุณคิดว่าอะไรคือสิ่งสำคัญที่สุดที่รัฐบาลไทยควรทำเพื่อรับมือกับสถานการณ์นี้?